บันทึกการอ่านครั้งที่ ๓๔
วันเสาร์ ที่๓ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๖๑ พูดคำว่า ขอโทษ ให้เป็น ครั้งหนึ่งมีคนเคยสัมภาษณ์ หลินจื้ออีง นักร้องยอดนิยมเกี่ยวกับ ทัศนะและความประทับใจที่เขามีต่อ สุดยอดซุปเปอร์สตาร์ทั้งสี่ และ กัวฟู่เฉินนักร้องดังของของฮ่องกง หลินจื้ออิงเจตนาตอบสัมภาษณ์ให้ตลกว่า “ สี่ซุปเปอร์สตาร์เหรอ ผมไม่รู้จัก ส่วนกัวฟู่เฉิน เขาเป็นพ่อผมเองละมั้ง “ คำพูดพอหลุดจากปาก ทุกคนที่อยู่ในที่นั้น ต่างพากันตำหนิว่าเขาไม่รู้จักพูดจา ไม่รู้การควรไม่ควร ต่อมาภายหลัง เพื่อที่จะแก้ไขความผิดพลาดที่ได้ทำลงไป แล้วก็กู้ภาพพจน์ที่ดีของตัวเองขึ้นมาใหม่ เมื่อมีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ เขาบอกอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาว่า “ ผมรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งพูดคำพูดเหล่านั้นออกไป ผมยินดีที่จะขอขมากัวฟู่เฉินต่อหน้าสาธารณะ ” เมื่อคำพูดเหล่านั้นได้รับคำตีพิมพ์ออกไป คำวิพากษ์วิจารณ์อันเกิดจาก “ คำให้สัมภาษณ์ “ ในครั้งก่อนจึงสงบลง นั้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อเผลอพลั้งพูดอะไรที่ผิดไป การออกมาขอโทษอย่างเปิดเผยบางครั้งก็ได้ผลดีกว่าการหาเรื่องอื่นมากลบเกลื่อนหรือทำเป็นเงียบเฉย ส่วนใหญ่คนเรา เมื่อ