บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2017

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๔

วันพฤหัสบดี ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ สาระสำคัญ เรื่อง รักพอดีๆ             ปริมาณความรักคงไม่สามารถวัดด้วยหน่วยวัดน้ำหนักได้     เพราะความรักเป็นเรื่องนามธรรมจับต้องไม่ได้    แต่สามารถสัมผัสรับรู้ความรู้สึกได้    รักแค่ไหนถึงเรียกว่าพอดี    จึงไม่สามารถกะเกณฑ์เป็นตัวเลขได้    มีเพียงคนสองคนเท่านั้นที่จะรู้ดีว่ารักแค่ไหนถึงจะพอดี             รักแบบพอดีมันต้องอาศัยองค์ประกอบของความรักและเหตุผล    รักแบบพอดีของคนๆหนึ่ง    ไม่จำเป็นต้องเท่ากับของอีกคนเสมอไปและไม่มีใครสามารถรกำหนดแทนกันได้    เพราะอย่างนี้คนที่รักในวัยเรียนต้องเป็นผู้กำหนดเอง โดยดูจากปัจจัยต่างๆเช่น    ความรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน    ผลการเรียนอยู่ระดับไหน    ควาสัมพันธ์ของคนรอบข้างเป้นอย่างไร    และอื่นๆ    ถ้าปัจจัยเหล่านี้อยู่ในขั้นตอนพอใจ    มีความรับผิดชอบอย่างเต็มที่    การเรียนอยู่ในขั้นดี    ก็ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง    ความรักแบบพอดีของคนเหล่านี้จึงสามารถเลยครึ่งแก้ว(น้ำ)มาได้ ที่มา : อชิรญา    ณ    แจแปน.รักพอดีๆ .กรุงเทพมหานคร : บริษัท   แฮ๊ปปี้บุ๊ค   พับลิชชั่ง   จำกัด , ๒๕๕๓

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๓

วันพฤหัสบดี ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ สาระสำคัญ เรื่อง ศิษย์ที่ครูไม่ต้องการ               เด็กชายเดช เดชากุล เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕   เป็นลูกคนเดียวของผู้มีอันจะกินคนหนึ่งถูกพ่อแม่ตามใจมากเกินไป เดชเป็นเด็กฉลาดแต่เขาไม่สนใจต่อการเรียนขาดเรียนบ่อย เอาแต่ใจตนเอง วันหนึ่งเดชมาเรียนตามปกติครูพรทิพย์จึงเรียกเดชมาพบที่โต๊ะหน้าห้องแต่เดช ไม่ยอมออกมาทำเป็นไม่สนใจต่อคำพูดของคุณครูและมีการโต้ตอบทำให้ครูไม่สามารถ ข่มใจได้อีกจึงพูดสั่งสอนเดชอย่างโมโห วันรุ่งขึ้นเดชมาเรียนเพียงครึ่งวันแล้วก็หิ้วกระเป๋าเดินคอตกกลับบ้าน ครูพรทิพย์สังเกตุว่าช่วงนี้เดชมาเรียนทุกวันแต่งกายเรียบร้อยแต่ซึมเศร้า ครูพรทิพย์ทำเป็นไม่สนใจเดชไม่ใยดีจนกระทั่งถึงวันสอบอ่านวิชาภาษาไทยเดชก็ เข้ามาจะสอบแต่ครูไม่สนใจไม่พูดด้วยเขาก็เดินออกไปแล้วเดินกลับบ้านน้ำตาซึม วันรุ่งขึ้นเดชไม่มาเรียนหลายวันและครูได้ข่าวว่าเดชไม่สบายครูจึงไปเยี่ยม ที่บ้านเดชขอโทษคุณครู คุณครูพรทิพย์ให้อภัยเดชทุกอย่างเพราะเดชได้ปรับปรุงตัวเองจนกลายเป็นคนละคน คุณครูพรทิพย์มีความสุขสุดที่จะกล่าว ที่มา : พินิตย์ พันธประวัติ . ศิษย์ที่ครูไม่ต

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๒

วันพฤหัสบดี ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ สาระสำคัญ เรื่อง ครอบครัวอบอุ่น             คำว่า   ครอบครัว   เป็น คำที่มีความหมายมาก คือ หมายถึงความรักความอบอุ่น ความเป็นอันเดียวกัน สมัยลูกเป็นเด็กๆ เราอยู่รวมกันเป็นครอบครัว มีเสียงหัวเราะสนุกสนาน   มี เสียงวิ่งเล่นวิ่งไล่กัน ได้ทานอาหารรวมกัน ได้อะไรด้วยกัน ดูมันมีชีวิตชีวา แม้พ่อแม่จะทำงานเหน็ดเหนื่อยกันมา พอเห็นหน้าลูกๆ มาคอยต้อนรับหน้าประตู ถามว่าเหนื่อยไหมแล้วช่วยถือกระเป๋าถือของให้ เท่านี้ก็หายเหนื่อยแล้ว เห็นลูกกินได้นอนหลับ พ่อกับแม่ก็สบายใจนี่แหละลูกเอ่ยที่เขาว่าครอบครัวที่อบอุ่น ตอนนี้ลูกก็โตกันแล้ว หากสามารถเสบเป่าได้   พ่อกับแม่ก็อยากจะเสบเป่าให้ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่น   พร้อม หน้าพร้อมตากัน เหมือนตอนเป็นเด็กทานข้าวด้วยกัน ถามไถ่สุขของกันและกัน ได้อุ่มหลานตัวน้อยๆ เท่านี้ก็ยืนอายุให้พ่อกับแม่ได้อีกหลายปีแล้วลูกเอ่ย ที่มา : ทองดี สุรเตโช . ครอบครัวอบอุ่น . กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกิจกรรมสตรีและสถานบันครอบครัว , ๒๕๕๒

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๑

วันพฤหัสบดี ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ สาระสำคัญ เรื่อง เด็กชายที่ยังเลวไม่พอ             มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อคลาวด์ เขาเป็นเด็กซึ่งเลวมากจนผู้คนที่อยู่ไกลและใกล้ได้ยินถึงคาวมซนของเขา ครั้งหนึ่งเมื่อมีคุณย่ามาอยู่กับเขาด้วยคลาวด์จับกบอ้วนมาไว้บนเตียงของ ท่าน    และอีกครั้งหนึ่งเมื่อคุณครูไม่ทันได้มองเขาก็เลื่อนเข็มนาฬิกาของ โรงเรียนทำให้เด็กๆได้กลับบ้านก่อนเวลาถึง ๒ ชั่วโมง   และมีอีกที่เขาเลวมากคือเขาปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่สูงที่สุดในสวนแล้วผูกเสื้อ เชิ้ตตัวที่ดีที่สุดของคุณพ่อไว้บนกิ่งไม้ที่สูงที่สุดมันจึงโบกตามลมราวกับ ธง    คุณพ่อคุณแม่และพี่น้องของเขาได้ใช้ทุกวิธีทางที่จะหยุดความซุกซนของคลาวด์ และทำให้เขาเป็นเด็กดีขึ้นพวกเขาให้เขาอดอาหารและไม่ให้ไปดูละครสัตว์แต่มัน ก็ไม่เป็นผลและวันหนึ่งทุกคนในเมืองต่างได้ยินถึงความซนของคลาวด์และไม่นาน ข่าวก็แพร่กระจายไปถึงหูแม่มดซึ่งแก่ที่สุด น่าเกลียดที่สุดและชั่วร้ายที่สุดในอณาจักรก็ทราบข่าว    จึงมาหาเด็กชายคลาวด์ที่บ้านและก็จะมาพาตัวเด็กชายคลาวด์ไปที่โรงเรียนพ่อมด ที่มีแต่เด็กเลว ที่มา : เอลีน   โคลเวน.   เด็กชายที่ยังเลวไม่พอ . กรุงเ